ถั่งเช่า |ความเป็นมาของ ถั่งเช่าและ ประโยชน์ของ ถั่งเช่า

16 ก.ค.

ประวัติความเป็นมา  ถั่งเช่า Cordyceps sinensis

เห็ด Cordyceps มีการใช้มานานเกือบ 1,500 ปีในการแพทย์แผน​​จีนและทิเบตแบบดั้งเดิม ในประเทศจีนโบราณ, Cordyceps ได้รับการแนะนำสำหรับการเจ็บป่วยจำนวนมากและได้รับการยกย่องว่าเป็นรักษาทั้งหมดและบำรุงสุขภาพโดยทั่วไปเหมือนโสม Cordyceps sinensis, โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีชื่อเสียงจะมีประสิทธิภาพสำหรับการสร้างความแข็งแรงเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดผลกระทบของริ้วรอย Cordyceps ได้รับการศึกษาค่อนข้างดีในประเทศจีนและญี่ปุ่นที่บางส่วนของผลประโยชน์ของพวกเขาได้รับการรับรองถึงแม้ว่าการวิจัยที่มีคุณภาพโดยนักวิทยาศาสตร์ตะวันตกขาดแคลน หรือมีจำนวนที่น้อยกว่า


1214

ประโยชน์ของระบบภูมิคุ้มกัน ด้วย  ถั่งเช่า

ถั่งเช่า  Cordyceps เสริมสร้างและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโดยการกระตุ้นการผลิตเซลล์นักฆ่าตามธรรมชาติ  ซึ่งเป็นเซลล์ภูมิคุ้มกันที่รับผิดชอบสำหรับการโจมตีเชื้อโรคเช่นไวรัสและแบคทีเรียตามที่ระบุไว้ในข้อความ ‘ชีวเคมีของโภชนาการมนุษย์.’ เชื้อรายังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพปกป้องหลอดเลือดและเนื้อเยื่ออื่น ๆ จากอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย ถั่งเช่า Cordyceps สามารถมีผลกดประสาทเล็กน้อย เกี่ยวกับผู้ใช้บางอย่างที่ลดความวิตกกังวลและส่งเสริมการนอนหลับพักผ่อน ให้หลับได้ลึกขึ้น

 

ถั่งเช่า| การเพิ่มประสิทธิภาพทางเพศ

การใช้งานที่นิยมสำหรับ  ถั่งเช่าCordyceps  ในประเทศแถบเอเชียเป็นยาโป๊ และการรักษาความอ่อนแอ การศึกษาทางคลินิกแสดงให้เห็นว่า เห็ดถั่งเช่า  Cordyceps มีประสิทธิภาพในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบของอวัยวะเพศชาย ซึ่งเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและนำไปสู่​​การกระชับและแข็งตัวยาวนาน

อ้างอิงตาม “The Complete Book of Chinese Medicine.”

ถั่งเช่า ช่วยด้านการเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย

บางการศึกษาในสัตว์ได้แสดงให้เห็นว่าการบริโภค ถั่งเช่า  Cordyceps เพิ่มอัตราการผลิตในตับของเอทีพีซึ่งเป็นโมเลกุลพลังงานของร่างกายในขณะที่อ้างถึงใน ‘โภชนาการขั้นสูง. ธาตุอาหารหลัก, ธาตุและการเผาผลาญอาหาร’ นอกจากถั่งเช่า  Cordyceps ดูเหมือนว่าจะลดความเหนื่อยล้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุและเพิ่มประสิทธิภาพการกีฬา ในยาจีนโบราณ, ถั่งเช่า Cordyceps มักจะได้รับการแนะนำให้ใช้ ในการควบคุมความดันโลหิตเพิ่มการไหลเวียนและการเสริมสร้างการเต้นของหัวใจ

ถั่งเช่า ตังถั่งเช่า ถั่งเฉ้า

ถั่งเช่า |คุณสมบัติต้านมะเร็ง

บางทีอาจจะได้รับประโยชน์ที่อาจเกิดความขัดแย้งมากที่สุดของ ถั่งเช่า  Cordyceps อยู่ในเรื่องที่เกี่ยวกับโรคมะเร็ง สารสกัดจากเนซิส Cordyceps militaris และได้แสดงให้เห็นกิจกรรมการต้านมะเร็งที่สำคัญในสัตว์ส่วนใหญ่  โดยการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและกระตุ้นการตายของเซลล์มะเร็งตามหนังสือ ‘การแพทย์ Herbalism.’ ถั่งเช่า Cordyceps ยังเพิ่มออกซิเจนใน ระดับเซลล ซึ่งเป็นการต่อต้าน การก่อโรคมะเร็งและการแพร่กระจาย  การใช้ถั่งเช่า เป็นยารักษา ด้วยถั่งเช่าชนิดแคปซูล  ตั้งแต่ 2 กรัมถึง 9 กรัมทุกวัน  จะช่วยคุณได้ดี ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับการรักษาทางการแพทย์ปกติก็ตาม ดังนั้งควรใส่ใจ และปรึกษาผู้ที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ถั่งเช่าให้แก่คุณ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี

ผลิตภัณฑ์ ถั่งเช่าที่มี่ส่วนผสมดีที่สุดจากอัลเฟ

 

4220384_orig

Alphaychongcao ถั่งเช่าอัลเฟ ที่ดีที่สุด

alphay-11

เคล็ดลับของการดูแลมือและเล็บให้มีสุขภาพที่ดี

21 พ.ย.

skincare1บางทีเราอาจมองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยๆไป นั่นคือ สุขภาพของมือ และเล็บ หากขาดการดูแล อาจเป็นที่มา แหล่งติดเชื่อต่างๆ ได้มากมาย ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจดูแล อย่าได้ละเลยสิ่งเล็กๆ แต่มีผลต่อชีวิต และสุขภาพของเรา…….

 

ในทุกๆวัน  คุณใช้มือสัมผัสสิ่งต่างๆโดยตรง แต่ไม่ใส่ใจดูแลขาดการบำรุง รวมทั้งพฤติกรรมจากความเคยชิน เช่น การใช้เล็บแกะเกาหรือข่วนกับวัตถุที่มีความหนาทำให้เล็บเปราะ หัก สีเล็บเปลี่ยนเป็นสีเขียว สีม่วง มีจุด หรือมีอาการบวมแดงรอบเล็บ เล็บขรุขระ มีเส้นสีน้ำตาล ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำร้ายเล็บอย่างรุนแรงจนถึงขั้นเล็บร่อน นอกจากนี้การปล่อยปละให้เล็บยาวมีการหมักหมมของเชื้อโรคต่างๆ ทำให้มีสิ่งไม่พึงประสงค์ติดอยู่ตามเล็บ เป็นสัญญาณเตือนว่าสุขภาพเล็บของคุณกำลังแย่แล้ว

‘พญ.วชิรา รุทระวณิช’ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากRampada International Skin Clinic และเจ้าของร้าน GlitteratiNail Lounge สุขุมวิท 20 ได้ให้ความรู้ว่า “ผิวมือและเล็บมีโครงสร้างที่แตกต่างจากผิวส่วนอื่น เนื่องจากผิวมือโดยเฉพาะฝ่ามือมีความหนากว่าผิวส่วนอื่นๆ เพราะเป็นพื้นที่ที่ต้องสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ทุกวันทั้งถือของ จับสิ่งของ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพ้ระคายเคืองขึ้น ได้บ่อยๆ โดยเราสามารถสังเกตสุขภาพผิวมือได้ง่ายๆ ด้วยการสัมผัสผิวมือ ที่มีสุขภาพดีจะต้องมีผิวนุ่มเนียน ไม่ลอกแตก ส่วนเล็บมือเป็นเคราตินหรือโปรตีนชนิดแข็งที่หนาขึ้นมา ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่หลุดลอกออกไปได้ตามกาลเวลาเหมือนชั้นผิวที่จะผลัดเซลล์ ผิว จึงควรรักษาให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ สาวๆ สามารถสังเกตเล็บมือของตัวเองได้ว่าหากมีสีแดงอมชมพูเรื่อๆ ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นสีของเส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยงใต้เล็บ นั่นแสดงว่าสาวๆ มีเล็บสุขภาพดีกันแล้ว”

มือและเล็บจะสวยสุขภาพดีได้ควรจะดูแลทั้งภายในและภายนอกเริ่มจากการสร้างสุขภาพดีภายในด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะวิตามินบี 2 ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยให้เล็บแข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย มักพบมากในตับสัตว์ นม เนย ถั่ว ผักใบเขียว ปลาและไข่ อาหารประเภทธัญพืช เมล็ดทานตะวัน ฟักทอง สามารถป้องกันจุดด่างขาวที่เกิดขึ้นบริเวณเล็บมือ อาหารทะเล เนื้อสัตว์ อุดมไปด้วยแร่สังกะสี ช่วยป้องกันการติดเชื้อของเล็บ พร้อมเน้นการรับประทานทานผักผลไม้

สำหรับการเพิ่มเสน่ห์จากภายนอก เริ่มด้วยด้วยทำความสะอาดมือและเล็บถูกวิธี ด้วย การใช้แปรงขนนุ่มๆ กับสบู่อ่อนๆ ถูเบาๆ และถูด้านใน ซอกเล็บซึ่งเป็นบริเวณสะสมของ เชื้อโรคแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ตัดเล็บมือเป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง ไม่ควรตัดชิดผิวหนังส่วนปลายนิ้วเพราะอาจทำให้เป็นแผล หรือตัดเล็บลงซอกข้างเล็บมากเกินไปเพราะจะทำให้เล็บขบได้ เลิกพฤติกรรมทำร้ายเล็บไม่กัด แกะเล็บ ใช้เล็บงัดแงะสิ่งของแข็งๆ หรือใช้ยาทาเล็บอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าอดใจไม่ได้ก็ควรเลือกใช้ยาทาเล็บที่มีคุณภาพ ไม่ทำให้เล็บเหลือง และควรเว้นวรรคปล่อยให้เล็บได้หายใจบ้าง และที่สำคัญที่สุดคือบำรุงผิวมือและเล็บหลังล้างมือด้วยการทาโลชั่นทุกครั้ง หลังล้างมือ ควรฝึกให้เป็นนิสัยเพื่อให้มือเนียนนุ่มและเล็บมีสุขภาพแข็งแรง พร้อมเผชิญกับมลภาวะ รอบด้าน

 Cr. ที่มาข้อมูล : นิตยสารเปรียว

 

 

>>> ใส่ใจสุขภาพผิวที่ทำให้คุณดูดีกว่าเดิม

การใช้โทนเนอร์ Toners for your Skin Care

11 พ.ย.

โทนเนอร์, fresheners astringents และโลขั่นบำรุงทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่เราจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ร่วมกับครีมดูแลผิวชนิดต่างๆ

ประโยชน์ของการใช้โทรเนอร์

เอาไว้่ใช้กับผิวก่อนที่จะใช้ครีมต่างๆ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน ก่อนและหลัง เมื่อใช้โทนเนอร์แล้ว ผิวก็พร้อมที่จะให้เราใช้ ครีมกลางวัน ครีมกันแดดต่อไป
fresheners ฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติมีค่า pH หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าและ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ความกระชับผิวได้ เหมาะอย่างยิ่งโดยเฉพาะ ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง และอาจช่วยสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางอีกด้วย

Applying-Tonerชนิดของโทนเนอร์ Toners เพื่อผิวของคุณ

ชนิดของโทนเนอร์ที่แตกต่างกัน มีคุณสมบัติ ที่แตกต่างกัน แตกละโทนเนอร์จะมีส่วนผสมแอลกอฮอร์ไม่เหมือนกัน โทนเนอร์ เป็น ของเหลวที่ เป็นน้ำ และคุณ ควรใช้หลังจากการทำความสะอาด ผิวของคุณ ก่อนที่จะใส่ ความชุ่มชื้นซึ่ง จะช่วยให้ ความชุ่มชื้นที่จะเจาะ ที่ง่ายและรวดเร็ว โทนเนอร์ สามารถ นำไปใช้กับ ใบหน้าด้วย แผ่นสำลีหรือสามารถ ฉีดสเปรย์ ลงบน ผิว โดยตรง มันเป็นสิ่ง ที่จะใช้ สำหรับการดูแลผิว เป็นประจำวัน ให้คงความสดชื่นให้ผิวของคุณ

fresheners

มักจะมี ปริมาณแอลกอฮอล์ ต่ำสุดและ เป็นประโยชน์สำหรับ ผิวแห้ง และผู้ใหญ่ เช่นเดียวกับการ ดูแล ผิวที่บอบบาง
โทนเนอร์  มักจะมี ปริมาณแอลกอฮอล์สูงขึ้นและ ได้รับการออกแบบ สำหรับการใช้งาน บนผิวหนัง ปกติ และการรวมกัน ช่วยการกระชับ หรือ ช่วยด้านโทนสี ผิว

Astringents

อาจมี ปริมาณแอลกอฮอล์สูงที่สุด และมีการใช้ สำหรับ ผิวมัน และ เป็นสิวได้ง่าย จะช่วยดูแลสภาพผิวที่มัน เอาความมันส่วนเกินอกไป ทำให้ผิวดีขึ้น ไม่แห้งเกิน และป้องกันการเกิดสิวได้

Exfoliation สำหรับการดูแลผิว ของคุณ
การขัดเซล์ผิวชั้นนอก  ของผิว exfoliants เป็น ส่วนผสมที่ exfoliate ผิว ชนิด ที่แตกต่างของ การขัด และ การขัดเซลล์ผิว ที่มีอยู่ มากมายจาก การใช้แปรง หรือเครื่องขัดผิว กับครีมขัดผิวที่มีกรดอ่อนๆ หรืออาจจะจำเป็นให้อยู่ในความดูแล โดย แพทย์ผิวหนัง และ ศัลยแพทย์ พลาสติก โดยตรง

กรด อัลฟา เช่น กรด ไฮดรอกซี , ครีม ลอกผิว และสครับขัด อ่อนโยน ทุกผิวเซลล์ ผิวที่ตายแล้ว ที่อุดตัน รูขุมขน ดังนั้นสำหรับ สุขภาพ ผิว การใช้สครับขัดผิว เป็นสิ่งที่คุณทกำลังมองหา เป็นสิ่งที่จำเป็น ที่จะช่วยดแลปัญหาผิวเซลล์ผิวเก่า ให้หลุดลอกออก เผยผิวใหม่ทีมีสุขภาพผิที่ดี

Dr.Young Products (เวชสำอางค์ของ ดร.ยัง)

ขัดผิวใฝห้สวยใสด้วยสครับคุณภาพสูงจาก dr.young

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้าน skin care

8 พ.ย.

เนื่องจากสภาพผิวที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องมีการดูแลผิวที่แตกต่างกัน การดูแลตามปกติ  คู่มือง่ายๆจะช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม สำหรับการเลือกใช้ในการดูแลผิวของคุณ และความแตกต่างบางอย่างระหว่างผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จึงต้องมีขั้นตอนง่ายๆที่จะปฏิบัติตาม และ วิธีการดูแลผิวที่ดีมากสำหรับผิวของคุณ และสภาพผิวของคุณ

Skin-Care-Expert-Advice-resized-600x372

ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้งมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวแห้ง ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมันถูกออกแบบมาเพื่อดูแลสภาพความมันของผิว  เรียนรู้เกี่ยวกับส่วนผสมที่เป็นสิ่งที่จำเป็น ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว ซื่งมีส่วนผสมที่ถูกต้อง และทำตามขั้นตอนที่เหมาะสมเป็นประจำ การดูแลผิวที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับการดูแลผิวให้มีสุขภาพดี

  วิธีหลักๆที่ดีที่สุดสำหรับการดูแลผิวของคุณที่คุณควรพิจารณาคือ:

โฟมสำหรับล้างหน้า Cleanser
โลชั่นสมานผิว Toner
การผลัดเซลล์ผิว หรือการขัดผิว (1-2 ครั้งต่อสัปดาห์)
การมาร์คหน้า และแพ็คหน้า Mask and Packs   (1-2 ครั้งต่อสัปดาห์)
การเพิ่มความชุ่มชื้น หรือ มอยเชอร์ไรซ์เซอร์ Hydrator และ moisturizers
การใช้ซีรั่ม serum
ครีมกันแดด  Sunscreen

Cleanser ทำความสะอาดสำหรับการดูแลผิวของคุณ

Cleanser หรือพวกโฟมล้างหน้านั่นเอง ควรจะใช้วันละสองครั้ง และการใช้จะเป็นขั้นตอนแรกในการดูแลผิวในทุกๆวัน ควรจะเลือกที่มีส่วนผสมของน้ำ และไม่ทำให้เกิดการชะล้างรุนแรง ในส่วนที่ปกป้องผิวตามธรรมชาติ เพื่อให้ได้ถึงความสมดุล สำหรับการดูแลผิวของคุณนี้ คุณต้องเลือกใช้ โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมที่เหมาะสำหรับผิวของคุณ ดังนั้นทุกคนควรทำความสะอาด ให้ผิวมีความสมดุลค่า pH ไม่แนะนำให้ใช้สบู่เพราะมันจะทำลายฟิล์มบนผิว ทำให้เกิดความแห้งกร้าน และมีความเป็นด่างมากเกินไป  เพราะมันจะทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆกับผิวคุณตามมาได้อีก

Applying-Cleanser

ประโยชน์ของการใช้คลีนเซอร์ Cleanser

โฟมล้างหน้า จะทำความสะอาด ละลายเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกที่จะทำให้รูขุมขนสะอาด และ เป็นการเตรียมผิวสำหรับผลิตภัณฑ์อื่น ๆต่อไป
โฟมล้างหน้า ดอาจมี emollients ที่ผิวแห้ง
โฟมล้างหน้า อาจมีส่วนผสมการต่อสู้กับปัญหาผิวต่างๆ
ที่เพิ่มเข้ามาจะช่วยให้สภาพผิวบางอย่าง เช่นการเพิ่มรักษาความชุ่มชื้นผิว หรือช่วยปัญหาเส้นเลือดฝอยตามผิว

 

เพจสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิว ขาวใส ไร้สิวที่เหล่า ดารา เซเลปใช้กัน

รู้จักคอลลาเจน Collagen

21 ก.ย.

รู้จักคอลลาเจน Collagen.

ภูมิคุ้มกันต้านทานโรคมะเร็ง

10 เม.ย.

เพิ่มภูมิคุ้มกันมะเร็ง

มะเร็งเป็นโรคร้ายที่ใครๆก็ไม่อยากจะเป็น แต่ด้วยมลภาวะต่างๆที่แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ดูเหมือนจะทำให้ผู้คน จำเป็นต้องใช้ชีวิตท่ามกลางวิถี ที่เปลี่ยนไปจากบรรยากาศเดิมๆดั่ง เฉกเช่น สมัยโบราณ ทำให้มิอาจหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะก่อเกิด โรค มะเร็งได้ง่ายๆ ดังนั้นเราควรจะศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับ ระบบภูมิคุ้มกันต้านมะเร็ง ลองมาดูว่ามีสิ่งที่ควรทราบมีอะไรบ้าง?

เกี่ยวกับโรค มะเร็ง

เพิ่มภูมิคุ้มกันต้านมะเร็ง

ระบบภูมิคุ้มกันทำงานอย่างไร

ระบบภูมิคุ้มกันทำหน้าที่เสมือนกองทัพที่ปกป้องร่างกาย ส่วนใหญ่อยู่ในระบบทางเดินน้ำเหลืองและกระแสเลือด  ระบบทางเดินน้ำเหลืองประกอบด้วยโครงข่ายของท่อน้ำเหลืองซึ่งลำเลียงของเหลวจากช่องว่างระหว่างเซลล์กลับเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิต นอกจากนี้ ยังมีต่อมน้ำเหลือง ม้าม และต่อมไทมัส ซึ่งต่างก็ผลิตลิมโฟไซต์อันเป็นเซลล์ที่คอยตรวจจับ ทำลาย และกำจัดสารแปลกปลอม จุลินทรีย์ และเซลล์มะเร็งทั้งหลาย

     ลิมโฟไซต์มี 2 ชนิด ได้แก่ บีเซลล์และทีเซลล์ บีเซลล์ซึ่งถูกผลิตโดยม้ามจะขับสารต้านเชื้อแปลกปลอม ขณะที่ทีเซลล์ซึ่งถูกผลิตในต่อมไทมัสสามารถทำลายสิ่งแปลกปลอมได้โดยตรง ในร่างกายยังมีเซลล์พิฆาตตามธรรมชาติ (เอ็นเคเซลล์) ซึ่งทำหน้าที่ต่อสู้และกำจัดสิ่งแปลกปลอมโดยเฉพาะเซลล์มะเร็งทันที

     เซลล์เม็ดเลือดขาวที่พบในเลือด ประกอบด้วย ฟาโกไซต์และลิมโฟไซต์ มีบทบาทสำคัญในการทำลายแบคทีเรียที่มารุกราน รวมทั้งกำจัดเนื้อเยื่อที่ตายและถูกทำลายลง ระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องมีดุลยภาพสมบูรณ์ ดังนั้น แม้ว่าระบบภูมิคุ้มกันจะมีหน้าที่หลักในการทำลายสิ่งแปลกปลอม แต่ก็อาจจะยอมให้สารที่ร่างกายเราต้องการ เช่น อาหาร ผ่านเข้ามาได้
ศัตรูของระบบภูมิคุ้มกัน
อวัยวะและเซลล์ทั้งหลายของระบบภูมิคุ้มกันต้องการสารอาหารบางประเภทเพื่อช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล ตัวอย่างเช่น  อินเตอร์เฟียรอนอันเป็นสารต้านไวรัสและมะเร็งที่ถูกขับออกมาโดยเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย ต้องการวิตามินซีสำหรับการผลิต ไลโซไซม์ซึ่งเป็นเอนไซม์ต้านแบคทีเรียที่พบในของเหลวในร่างกาย เช่น น้ำตา เลือด ต้องการวิตามินเอ  ดังนั้น หากอาหารที่ไม่มีคุณภาพจะบั่นทอนระบบภูมิคุ้มกันให้อ่อนแอโดยทันที

        ศัตรูอื่นๆ ของระบบภูมิคุ้มกันได้แก่ ความเครียด การสูบบุหรี่ การบริโภค แอลกอฮอล์และคาเฟอีนมากเกินไป น้ำตาล ยา สารปรุงแต่อาหาร ยาฆ่าแมลง มลพิษ การขาดการออกกำลังกาย และการนอนหลับไม่เพียงพอ

สัญญาณของภูมิคุ้มกันต่ำ

ระบบภูมิคุ้มกันที่ด้อยประสิทธิภาพจะส่งสัญญาณให้เห็นได้ในเวลาไม่นาน เป็นเรื่องปกติที่คนเราส่วนใหญ่จะเป็นหวัดกันปีละครั้งสองครั้ง แต่ภูมิคุ้มกันที่ถดถอยจะทำให้เราเปราะบางต่อเชื้อหวัดหรือเชื้อไข้ต่างๆ และอาจทำให้เราติดเชื้อได้บ่อยครั้ง สัญญาณอื่นๆ ของภูมิคุ้มกันที่ไร้ประสิทธิภาพได้แก่ ระบบการย่อยผิดปกติ ความอ่อนล้า อาการปวดตามข้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง และผิวพรรณที่หมองคล้ำ

ระบบภูมิคุ้มกันที่ไม่สมดุลยังอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ และอาหารเป็นพิษ เพราะเมื่อพบสารที่เป็นตัวกระตุ้น ระบบภูมิคุ้มกันจะเข้าจู่โจมในทันที จากนั้นจะขับสารฮิสตามินและสารอื่นๆ เพื่อขับไล่สิ่งที่มันมองว่าเป็นผู้รุกราน จึงส่งผลให้เกิดอาการไม่พึงปรารถนาต่างๆ ได้

อาหารเสริมภูมิคุ้มกันมะเร็ง

ในการรักษาเซลล์และอวัยวะสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงและอยู่ในภาวะสมดุล เราจำเป็นต้องรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง

– วิตามินซี : ระบบภูมิคุ้มกันทั้งหมดต้องอาศัยวิตามินซีในการทำงาน ดังนั้น ควรรับประทานอาหารที่มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระชนิดนี้สูง ซึ่งผลไม้และผักส่วนใหญ่ก็มีวิตามินซีสูงอยู่แล้ว
   – วิตามินเอ :  เป็นสารต้านไวรัสที่ทรงพลัง และช่วบบำรุงต่อมไทมัส วิตามินเอพบได้ใน ตับ ผลิตภัณฑ์จากนม ปลาที่มีไขมันดีสูง น้ำมันตับปลา รวมทั้งเบต้าแคโรทีนในพืชผักซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนไปเป็นวิตามินเอได้
   – วิตามินบี :  สำคัญต่อการทำงานของฟาโกไซต์ (เซลล์เม็ดเลือดขาว)  พบใน ข้าวกล้อง ธัญพืช
   – วิตามินอี :  เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอานุภาพและช่วยกระตุ้นการผลิตแอนตีบอดี้
   – แคลเซียม :  ช่วยเซลล์ฟาโกไซต์ในการทำหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอม พบในผลิตภัณฑ์จากนม
   – ซีลีเนียม :  จำเป็นต่อการผลิตแอนตีบอดี้
   – ธาตุเหล็ก :  เสริมสร้างภูมิต้านทานโดยรวม
   – สังกะสี :  ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของทีเซลล์
** แร่ธาตุส่วนใหญ่พบใน เมล็ดพืช ถั่วเปลือกแข็ง และผักเขียว

     นอกจากนี้ โปรตีนเป็นสิ่งจำเป็นต่อภูมิต้านทานที่เข้มแข็ง เนื่องจากร่างกายต้องใช้โปรตีนในการผลิตเซลล์ต่างๆ รวมทั้งแอนตีบอดี้ และเอนไซม์ของระบบภูมิคุ้มกัน โปรตีนประกอบด้วยกรดอะมิโนที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของภูมิคุ้มกัน ตัวอย่างเช่น กรดอะมิโนกลูตาไธโอน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและสารล้างพิษที่สำคัญ ผู้คนส่วนใหญ่ขาดโปรตีน เราจึงจำเป็นต้องรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงเป็นปริมาณมาก เช่น ถั่ว เมล็ดพืช เนื้อ และปลา

     สารอาหารที่สำคัญชนิดอื่นๆ ได้แก่ ใยอาหาร ที่พบได้ในเมล็ดข้าวต่างๆ ผลไม้ และผัก จำเป็นต่อระบบการย่อย ช่วยทำให้ลำไส้สะอาดป้องกันการสะสมของสารพิษ และช่วยป้องกันการแพร่พันธุ์ของแบคทีเรียที่อันตราย ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนมีความสำคัญเนื่องจากมีปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 สูง ซึ่งช่วยลดอาการอักเสบและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยรวม จึงควรรับประทานถั่ว เมล็ดพืช และปลาที่มีไขมันดีมาก

     ผักใบเขียว เช่น บล็อกโคลี่และกะกล่ำปลี มีสารคุณค่าพืชผักที่เรียกว่า กลูโคซิโนเลต ซึ่งเป็นสารต้านมะเร็งที่มีฤทธิ์สูง แตงโม เกรปฟรุตสีชมพู และมะเขือเทศ มีปริมาณไลโคพีนสูง ซึ่งเป็นสุดยอดสารอาหารต้านมะเร็งอีกชนิดหนึ่ง ขณะที่ผลไม้จำพวกเบอรี่ เช่น สตรอเบอรี่ บลูเบอรี่ ราสเบอรี่ มัลเบอรี่ มีสารต้านการอักเสบแอนโทไซยานิน และกรดเอลลาจิกที่สามารถช่วยลดการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง

 ขั้นตอนอื่นในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

การออกกำลังกายมากขึ้นจะกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำเหลืองในเซลล์ภูมิคุ้มกันทั้งร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยนำออกซิเจนไปสู่อวัยวะต่างๆ ไม่จำเป็นต้องไปฟิตเนส เพียงทำตัวกระปรี้กระเปร่าอยู่เสมอ และเดินเร็ววันละครึ่งชั่วโมงก็พอ

การมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิต และการมีสังคมที่ดีก็ไม่ควรมองข้าม งานวิจัยจำนวนมากพบว่า การหัวเราะ การมองโลกในแง่ดี และการพูดคุยเรื่องขำขันกับเพื่อน สามารถเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้

การนอนหลับอย่างเพียงพอก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน การรับแสงแดดก็เป็นเคล็ดลับในการกระตุ้นอารมณ์และภูมิคุ้มกัน โยคะ ชี่กง และการนั่งสมาธิสามารถลดความเครียด และช่วยผ่อนคลาย จึงมีส่วนช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันเช่นกัน

Cr.siamca.com

รับข้อมูลทางเลือก>>  เห็ดทางการแพทย์ ช่วยต้านมะเร็ง

อาหารเสริม ตัง ถั่งเช่า-ถั่งเฉ้า __ชงเฉ่า(Chong cao)__

30 มี.ค.

สุดยอดสมุนไพรจีน ถั่งเช่า (ถั่งเฉ้า)

ตังถั่งแห่เช่า [2] (冬蟲夏草; dong chong xia cao) หรือ ตังถั่งเช่า หรือ ถั่งเช่า (蟲草; chong cao) เป็นสมุนไพรจีน [3] มีความหมายว่า “หญ้าหนอน” หรือ “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” เกิดจากหนอนผีเสื้อแถบที่ราบสูงทิเบต ที่จำศีลอยู่ใต้ดินในฤดูหนาว ถูกสปอร์ของเห็ดราในสกุลOphiocordyceps อาศัยเป็นปรสิตและเติบโตสร้างเส้นใยออกมาทางศีรษะของตัวหนอนในฤดูร้อน เห็ดนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ophiocordyceps sinensis

เห็ดถั่งเช่าพบในทิเบต มณฑลชิงไห่ มณฑลเสฉวน มณฑลกานซู มณฑลยูนนาน และแถบเทือกเขาหิมาลัยในอินเดีย ภูฏาน และเนปาล มีสรรพคุณในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ และเชื่อว่ารักษามะเร็งมีความต้องการในท้องตลาดสูง และมีราคาแพง

ถั่งเช่า ถั่งเฉ้า ตังถั่งเช่า

ถั่งเช่า ตังถั่งเช่า ถั่งเฉ้า

ถั่งเช่า-ถั่งเฉ้า

ถั่งเช่า   ถั่งเฉ้า       ตังถั่งเช่า

หรือ    ตังถั่งแห่เช่า

สรรพคุณของถั่งเช่า

– เสริมเสริมภูมิต้านทาน เพื่อต่อต้านการแพร่กระจายของเชื้อโรคติดต่อนานาชนิด

– ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ

– คลายอาการอ่อนเพลีย

– สามารถเสริมสมรรถภาพการทำงานของปอด

– ปรับและฟื้นฟูอาการไตพร่อง ร่างกายอ่อนแอ

เสริมสร้างฮอร์โมนเพศชายให้มากขึ้นกระตุ้นสมรรถภาพการทำงานของต่อมหมวกไต เสริมสมรรถภาพการทำงานที่ดีเยี่ยมของ สมรรถภาพทางเพศให้แก่ชาย

– สำหรับสตรีแล้วสามารถปรับแก้อาการที่ไม่สบายต่าง ๆ ที่เกิดจากสาเหตุวัยทอง

– ปัจจุบัน ในวงการอาชีพการแพทย์กีฬาได้ค้นคว้าพิสูจน์แล้วว่า “ถั่งเช่า” สามารถ เสริมคุณภาพร่างกายและพลังการเคลื่อนไหวของนักกีฬาให้สูงขึ้น ชะลอความอ่อนล้าที่เกิดขึ้น ขจัดความอ่อนเพลีย ขณะเดียวกันก็ปราศจากสารต้องห้ามใด ๆ ของอาหารและยาไม่มีพิษหรือผลข้างเคียงใด ๆ ต่อร่างกาย ผลิตภัณฑ์ที่สกัดจาก ถั่งเช่า ได้กลายเป็น “ยาวิเศษ” ที่ช่วยให้นักกีฬาได้รับคะแนนที่ดียิ่ง

– สามารถช่วยบรรเทาโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ

– โรคเรื้อรังของหลอดลม หลอดลมอักเสบเรื้อรัง

ถุงลมโป่งพอง หอบหืด เนื่องจากโรคหลอดลม อย่างเด่นชัด

– ลด อาการภูมิแพ้ ได้อย่างชัดเจน

“ถั่งเช่า” สามารถผ่อนคลายอาการของผู้ป่วยที่ได้รับผลข้างเคียงอย่างมากจากการฉายรังสีและการรักษาทางเคมี (เช่น มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการอื่น ๆ จากกระเพาะอาหารและลำไส้ รวมทั้งปริมาณของเซลล์เม็ดเลือดและสมรรถภาพร่างกายทรุดลง ฯลฯ) เป็นอาหารเสริมที่น่าพึงพอใจสำหรับผู้ป่วยที่ รักษามะเร็ง ด้วยการฉายรังสีและการให้สารเคมี

“ถั่งเช่า” สามารถป้องกันและซ่อมแซมการสึกหรอของเซลล์ที่เกิดจากการใช้ Ionizing radiation (การฉายรังสีแบบหนึ่ง) และสารเคมีที่มีพิษ เสริม Differentiation ของ Bone marrow stem cells (สเต็มเซลล์ เซลล์ต้นกำเนิดในไขกระดูก) ในร่างกายและเสริมเซลล์สืบพันธ์

– ยับยั้งกระบวนการชราของร่างกาย

ลดปริมาณของหลอดลมอักเสบ ลดความเสี่ยงการเกิดของ โรคหลอดเลือดหัวใจ และสมอง

– ปรับรักษาสาเหตุต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดสมรรถภาพการทำงานของตับไม่ปกติและ โรคเบาหวาน

———————————————————————————————

ถังเฉ้า ยอดสมุนไพร ยาบำรุงชั้นเยี่ยม

สรรพคุณ
ถังเฉ้า เป็นพืชที่หายาก ที่มีสรรพคุณในการ บำรุงไต เสริมสมรรถภาพ เสริมสร้างฮอร์โมน บำรุงหัวใจ บำรุงปอด หลอดลม กล่องเสียง เสริมอายุวัฒนะ ป้องกัน เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ

ตังถั่งเช่า หรือ ถั่งเช่า เป็นยาบำรุงร่างกายชั้นยอด ที่ได้จากการผสมผสานกันระหว่างตัวหนอนและ เห็ดตังถั่งเช่า หรือ ตังถั่งแห่เช่า แปลว่า “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า”
มีรสหวาน ฤทธิ์ไม่ร้อน เข้าเส้นลมปราณไต บำรุงไต เสริมภูมิคุ้มกัน และพลังชีวิต แก้อาการอ่อนเพลีย ภูมิแพ้ แก้ไอ ละลายเสมหะ หอบหืด ไอเรื้อรัง อาการ หย่อนสมรรถภาพทางเพศ เข่าอ่อน เอวอ่อน ทำให้แก่ช้า และเป็นยาบำรุงสำหรับผู้ป่วยฟื้นไข้
การทดลองทางการแพทย์ยังพบว่า สารสกัดจาก ตังถั่งเช่า มีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด กระตุ้นสมรรถภาพการทำงานของต่อมหมวกไต เพิ่มภูมิต้านทานให้กับผู้ป่วย โรคไต ช่วยลดจำนวนครั้งของ การฟอกไต สมานแผลจาก เบาหวาน ช่วยลดการโตของ เนื้องอกและเซลล์มะเร็ง

* ฟื้นฟูสมรรถนะของไต ช่วยบรรเทาอาการและรักษา ไตอักเสบ นิ่วในไต เสริมภูมิต้านทานให้กับ ผู้ป่วยโรคไต
* ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ ให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
* ช่วยชะลอความแก่ บำรุงร่างกาย ลดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย
* ช่วยบรรเทาอาการ และรักษา โรคภูมิแพ้ ให้ร่างกายมีความสมดุล
* สำหรับผู้ที่มีบุตรยาก ตังถั่งเช่า จะเติมเต็มน้ำอสุจิและไขกระดูก
* เพิ่มประสิทธิภาพของปอด และหลอดลม
* ช่วยบรรเทาอาการ และรักษา โรคต่อมลูกหมาก
* ช่วยบรรเทาอาการ และรักษาอาการอ่อนเพลีย ปวดเอว
* ปรับสมดุลของ ความดันโลหิต ในร่างกาย
* กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนต่อมหมวกไต ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญกับร่างกายอย่างมาก

ถั่งเฉ้า ชื่อจริงๆของมันก็คือ ตังถั่งแห่เช่า หรือที่เราเรียกกันอีกชื่อว่า “ถั่งเช่า” แปลเป็นไทยได้ว่า “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า”     ที่ถูกเรียกว่า     “หญ้าหนอน”    ก็เพราะว่า    ยาสมุนไพร ชนิดนี้ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นตัวหนอน ซึ่งเป็นตัวหนอนของผีเสื้อชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hepialus armoricanus Oberthiir และบนตัวหนอนนั้น มี เห็ด ชนิดหนึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cordyceps sinensis (Berk.) Saec. เจริญเติบโตอยู่ เนื่องจากสมุนไพรชนิดนี้ในฤดูหนาวนั้นจะเหมือนหนอนแต่ฤดูร้อนกลับงอกเป็นต้น หญ้าได้ จึงถูกเรียกว่า “หญ้าหนอน” เป็นยังไงครับพิสดารมากใช่ไหมครับ

สถานที่ที่พบของ ถั่งเฉ้าได้บ่อยนั้น ส่วนมากเพาะในบริเวณภาคใต้ในมณฑลชิงไห่ เขตซางโตวในธิเบต นอกเหนือจากนี้ ยังมีเพาะเห็ดในมณฑลเสฉวน ยูนนาน กุ้ยโจว ถั่งเช่านี้ เก็บเกี่ยวในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ เมื่อขุดตัวหนอนขึ้นจากดินแล้ว นำมาล้างน้ำให้สะอาด ตากให้แห้งก็สามารถนำมาใช้เป็นยาได้ ส่วนการเก็บรักษา ควรเก็บไว้ในที่แห้ง ระวังอย่าให้ชื้น เพราะจะทำให้สมุนไพรด้อยคุณภาพลงไป
ถังเฉ้าได้มีการศึกษาวิจัยกันอย่างกว้างขวาง ถึงการนำมาใช้และสรรพคุณทางด้านต่างๆ มีการยอมรับกับว่าสามารถใช้บำบัดโรคได้หลายโรค บำรุงร่างกาย เสริมสุขภาพ

ดร.สมศักดิ์ ศิวิชัย ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยิชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค สวทช.) อธิบายว่า ข้อมูลอ้างอิงจากการวิเคราะห์ของห้องปฏิบัติการ ถั่งเฉ้า มีสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะ สารคอร์ไดเซปิน ( Cordycepin) มีฤทธิ์ บำรุงไต กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ช่วยรักษาสมดุลของคลอเรสเตอรอลในหลอดเลือด รวมถึงฤทธิ์ บำรุงกำลังทางเพศ